PPE งานเชื่อมที่มืออาชีพต้องใช้ อุปกรณ์เซฟตี้สำหรับงานประกายไฟ

by pam
495 views

งานที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น งานเชื่อม ตัด เจียร หรือแม้แต่งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บจากความร้อน ประกายไฟ หรือแม้แต่รังสีความร้อน ดังนั้นการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE: Personal Protective Equipment) ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน

อุปกรณ์ PPE คืออะไร

PPE (Personal Protective Equipment) หรือ “อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล” คือ อุปกรณ์ที่ใช้ปกป้องผู้ปฏิบัติงานจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน เช่น การหกล้ม การบาดเจ็บจากเครื่องมือ หรือการสัมผัสกับสารเคมีอันตราย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บหรือโรคจากการทำงาน โดยทั่วไปแล้ว PPE ประกอบด้วยหมวกกันน็อก ถุงมือ รองเท้าเซฟตี้ แว่นตานิรภัย หรือหน้ากากอนามัย ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่ทำ

ในการทำงานเชื่อม (Welding) การใช้ PPE เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องจัดเตรียมให้พนักงาน เพราะงานเชื่อมมีความเสี่ยงสูงจากหลายปัจจัย เช่น ความร้อนสูง แสงไฟจากการเชื่อมที่สามารถทำให้ตาบอด หรือควันและฝุ่นที่เกิดจากการเชื่อม ที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ งานเชื่อมนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานแล้วประกายไฟ ที่เกิดขึ้นก็มีความเสี่ยง ต่อการเกิดไฟไหม้ จึงทำให้มีตำแหน่งานโดยเฉพาะของโรงงานขึ้นมา

หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญในการป้องกันอันตรายจากไฟไหม้ในที่ทำงาน คือ ผู้เฝ้าระวังไฟ (Fire Watch Man) ที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยในการทำงานที่มีความเสี่ยงจากไฟ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเชื่อมที่มีประกายไฟและความร้อนสูง ผู้เฝ้าระวังไฟจะคอยสังเกตและคอยตัดสินใจหากมีเหตุการณ์ที่อาจเกิดเพลิงไหม้ เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือหรือแจ้งเตือนได้ทันที

6 อุปกรณ์ PPE การทำงานเชื่อมที่ต้องมี

Welding Helmet

1. หน้ากากเชื่อมและแว่นตานิรภัย (Welding Helmet & Safety Goggles)

หน้ากากเชื่อมและแว่นตานิรภัย เป็นอุปกรณ์ป้องกันสำหรับผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อม เช่น การเชื่อมเหล็ก หรือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับแสงไฟจากการเชื่อม เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงจ้า, สารพิษ, และฝุ่นละอองที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการเชื่อม

ทำไมต้องใช้?

    • ป้องกันดวงตาและใบหน้าจากแสงจ้าของงานเชื่อม
    • ลดความเสี่ยงจากสะเก็ดไฟและประกายไฟที่อาจกระเด็นเข้าตา
    • ป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และอินฟราเรด (IR) จากงานเชื่อมโลหะ

ประเภทของหน้ากากเชื่อม

    • แบบเลนส์ตายตัว: เหมาะสำหรับงานที่ใช้กระบวนการเชื่อมแบบเดิม ๆ
    • แบบปรับแสงอัตโนมัติ (Auto-darkening): ปรับระดับความมืดของเลนส์โดยอัตโนมัติเพื่อลดความเมื่อยล้าของสายตา
    • แว่นตานิรภัยสำหรับงานเจียรหรืองานตัด: ควรเลือกที่มีคุณสมบัติกันกระแทกและกันความร้อน

2. ถุงมือป้องกันความร้อน (Heat-resistant Gloves)

ถุงมือป้องกันความร้อน เป็นอุปกรณ์ป้องกันมือที่ออกแบบมา เพื่อป้องกันการสัมผัสกับความร้อนจากการทำงาน ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การหลอมโลหะ การเชื่อม หรือการทำงานใกล้แหล่งความร้อน

ทำไมต้องใช้?

    • ป้องกันมือจากความร้อนโดยตรงขณะจับชิ้นงานที่ร้อน
    • ลดความเสี่ยงจากประกายไฟที่กระเด็นโดนมือ
    • ป้องกันอันตรายจากสารเคมีที่อาจร้อนจัด

ประเภทของถุงมือที่เหมาะกับงานความร้อน

    • ถุงมือหนังทนความร้อน: เหมาะสำหรับงานเชื่อมและงานที่ต้องสัมผัสกับโลหะร้อนโดยตรง
    • ถุงมือเคลือบฉนวนกันความร้อน: เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสกับแหล่งความร้อนเป็นเวลานาน

Heat-resistant Clothing

3. ชุดป้องกันความร้อน (Heat-resistant Clothing)

ชุดป้องกันความร้อน เป็นชุดที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการสัมผัสกับความร้อนสูง ซึ่งมักใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจากความร้อน เช่น การหลอมโลหะ การเชื่อม หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง

ทำไมต้องใช้?

    • ป้องกันผิวหนังจากการสัมผัสความร้อนโดยตรง
    • ลดโอกาสเกิดแผลไฟลวก จากประกายไฟ
    • ป้องกันการติดไฟของเสื้อผ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ประเภทของชุดป้องกัน

    • เสื้อและกางเกงผ้าหนังหรือผ้าทนไฟ (FR: Flame Resistant Clothing): ควรเลือกใช้เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติกันไฟ เช่น เสื้อเชื่อมหนัง หรือชุดที่มีมาตรฐาน EN ISO 11612
    • เอี๊ยมป้องกันประกายไฟ (Welding Apron): ใช้เสริมการป้องกันโดยเฉพาะบริเวณลำตัว

4. รองเท้าเซฟตี้กันความร้อน (Heat-resistant Safety Shoes)

รองเท้าเซฟตี้กันความร้อน เป็นรองเท้าที่ออกแบบมา เพื่อปกป้องเท้าจากอันตรายที่เกิดจากความร้อนสูง ซึ่งมักใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อน เช่น โรงงานที่เกี่ยวข้องกับการหลอมโลหะ การเชื่อม หรือการทำงานในพื้นที่ที่มีความร้อนมาก

ทำไมต้องใช้?

    • ป้องกันเท้าจากประกายไฟและโลหะร้อนที่อาจตกลงมา
    • ลดความเสี่ยงจากพื้นร้อนหรือสารเคมีที่อาจหกรั่วไหล
    • ลดอาการลื่นจากน้ำมันหรือเศษโลหะที่กระเด็นออกมา

ลักษณะของรองเท้าที่เหมาะสม

    • รองเท้าหนังหุ้มข้อกันความร้อน: ควรเลือกแบบที่มีพื้นกันลื่นและทนต่อความร้อนสูง
    • รองเท้าที่มีปลอกหุ้มโลหะ (Steel Toe Cap): ป้องกันการบาดเจ็บจากวัตถุตกกระแทก

Ear Muffs

5. ที่ครอบหูป้องกันเสียง (Ear Muffs)

ที่ครอบหูป้องกันเสียง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อปกป้องหูจากเสียงดัง ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายทางการได้ยิน

ทำไมต้องใช้?

    • งานที่มีความร้อนสูงมักเกิดเสียงดัง เช่น การเชื่อม การตัด และการเจียร
    • ป้องกันการสูญเสียการได้ยินจากเสียงเครื่องมือ
    • ป้องกันใบหูจากไอร้อนที่อาจทำให้ผิวหนังไหม้

ประเภทของที่ครอบหู

    • Ear Muffs: ที่ครอบหูที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากเครื่องมือไฟฟ้า
    • Ear Plugs: ปลั๊กอุดหูที่ใช้สำหรับลดเสียงในบริเวณที่มีเสียงดังมาก

ระดับเสียงของงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูง เช่น การเชื่อม การตัด และการเจียร มีค่าประมาณนี้:

    • เชื่อมโลหะ (Welding): 85 – 105 เดซิเบล (dB)
    • ตัดโลหะด้วยแก๊ส (Oxy-fuel Cutting): 90 – 110 เดซิเบล (dB)
    • เจียรโลหะ (Grinding): 95 – 115 เดซิเบล (dB)
    • ตัดโลหะด้วยพลาสมา (Plasma Cutting): 100 – 120 เดซิเบล (dB)

หากระดับเสียงเกิน 85 dB และต้องทำงานในบริเวณนั้นเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้ ที่ครอบหูป้องกันเสียง (Ear Muffs) หรือ ปลั๊กอุดหู (Ear Plugs) เพื่อลดปัญหาสุขภาพด้านหู ที่ส่งผลต่อการได้ยินเสียง ที่เรามักพบได้บ่อย อย่าง อาการหูหนวก


6. หน้ากากกันฝุ่นและไอโลหะ (Respiratory Protection)

หน้ากากกันฝุ่นและไอโลหะ เป็นอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจที่ออกแบบมา เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองและไอโลหะที่อาจเกิดขึ้นในขณะทำงาน เช่น งานเชื่อม, การเจียร, การพ่นทราย, หรือกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับโลหะ หน้ากากชนิดนี้มีคุณสมบัติในการป้องกันสารพิษ ที่สามารถทำลายสุขภาพและระบบหายใจของผู้สวมใส่

ทำไมต้องใช้?

    • งานที่มีความร้อนสูง เช่น เชื่อมโลหะและเจียร อาจทำให้เกิดไอโลหะและฝุ่นที่เป็นอันตราย
    • ป้องกันการสูดดมสารเคมีที่เป็นพิษจากควันโลหะ
    • ลดความเสี่ยงของโรคปอดจากการสูดดมฝุ่นโลหะหนัก

ประเภทของหน้ากากที่แนะนำ

    • หน้ากาก N95 หรือ P100: ใช้กรองฝุ่นและไอโลหะที่เป็นพิษ
    • หน้ากากแบบมีตัวกรองอากาศ (Powered Air-Purifying Respirator – PAPR): ใช้ในงานที่มีปริมาณควันมากเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ

สรุป

อุปกรณ์ PPE สำหรับงานเชื่อม ที่มีความร้อนเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความร้อนสูง ไอโลหะ และประกายไฟที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมตามประเภทของงาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ดังนั้นควรสวมใส่ PPE ทุกครั้งก่อนเริ่มงานเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยทั้งต่อพนักงาน และองค์กรเอง ในองค์กรที่มีผู้เฝ้าระวังไฟ จะเป็นผุ้ที่มีหน้าที่คอยดูแลในส่วนของการทำงานที่อาจมีความเสี่ยง รวมถึงการจัดการอึปกรณ์ PPE ให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็นงานเชื่อม งานตัด งานเจียรไน

ซึ่งผู้ที่จะเป็น ผู้เฝ้าระวังไฟได้นั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อมจากการอบรมผู้เฝ้าระวังไฟ ก่อนปฏิบัติงาน

ติดต่อสอบถาม : (064) 958 7451 ตุณแนน / เมล : [email protected]

เรื่องยอดนิยม